Page Speed สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้กับการทำ SEO

Page Speed สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้กับการทำ SEO

หลายธุรกิจที่เริ่มมีการทำเว็บไซต์หรือเว็บเพจของตัวเอง ล้วนแต่ต้องการให้หน้าเว็บของตนเองนั้นสวยงาม และติดอันดับอยู่บนหน้าแรกของการค้นหาหน้า Google อยู่เสมอ ซึ่งนักการตลาดหลายคนรู้กันดีว่า Google มีระบบ AI ที่จะคัดกรองและจัดอันดับเว็บไซต์ตามหลัก SEO ที่ไม่ว่าจะเป็น Keyword, Backlink, เนื้อหาที่เป็นประโยชน์, ยอดการเข้าชม แต่ก็มีนักการตลาดบางกลุ่มที่ไม่รู้เลยว่าในหลักการทำ SEO นั้น Page Speed (ความเร็วหน้าเว็บ) เป็นสิ่งสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับยอดการเข้าชมของเว็บไซต์ และ Google ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นตัววัดการจัดอันดับด้วย เพราะแบบนี้ความเร็วหน้าเว็บจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้กับการทำเว็บไซต์ในหลักการ SEO

Page Speed คืออะไร

Page Speed คืออะไร ให้แปลตามตัวอักษรเลยคือ ความเร็วหน้าเพจ หรือก็คือ ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บของเรา โดยตัวความเร็วหน้าเว็บเปรียบเสมือนด่านแรกในการเข้าเว็บไซต์ ยิ่งเร็วเท่าไร หน้าเว็บจะแสดงขึ้นให้ผู้ชมได้เร็วขึ้นเท่านั้น (ส่วนเนื้อหาภายในเว็บจะเป็นอีกเรื่อง) หากให้เปรียบเทียบเห็นภาพอีกหน่อย ยกตัวอย่างเป็น คุณไปซื้อของร้านค้าหนึ่ง ร้าน A คุณยืนรอของไม่นาน ก็ได้ของที่คุณต้องการ แต่ในขณะที่ร้าน B คุณยืนรอของนานมาก นานจนคุณหาวไปสามรอบ แล้วพึ่งจะได้ของ เป็นใครก็ต้องเดินออกจากร้าน B เลือกแล้วไปเลือกร้าน A เพราะแบบนั้นแล้ว ถ้าหากเว็บของคุณมี ความเร็วโหลดหน้าเว็บที่เร็วดีพอให้กับผู้เข้าชม ย่อมทำให้เว็บของคุณมียอดเข้าชมที่ดีแน่

ทำไม Page Speed ถึงสำคัญกับ SEO

ทำไม Page Speed ถึงสำคัญกับ SEO

Page Speed นับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการทำ SEO ของคุณให้ประสบความสำเร็จได้บนการทำเว็บไซต์ เพราะยอดเข้าชม กับระยะเวลาในการชมเว็บ ถูกนับเป็นตัววัดและจัดอันดับของ Google
ยกตัวอย่างหากเว็บไซต์คุณมีความเร็วโหลดหน้าเว็บที่รวดเร็ว การทำให้ผู้เข้าชมเข้ามาดูเว็บไซต์ได้เร็วดีและทันใจผู้ชม ย่อมทำให้มีผู้ชมเข้ามาดู แล้วยิ่งได้รับชมนานเท่าไร ย่อมมีผลต่อการเก็บยอดผู้เข้าชม เพราะจะทำให้ Google มองว่าเว็บนี้มีประโยชน์ ผู้ชมอยู่เข้านาน และสิ่งนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับบนหน้า Google Search

แต่ถ้าหากหน้าเว็บคุณมีความเร็วโหลดหน้าเว็บที่ช้า ใช้เวลานานกว่ากว่าจะรอได้ ผู้เข้าชมย่อมหงุดหงิดแล้วเลือกปิดหน้าเว็บหนี และยิ่งมียอดเข้าชมที่สั้น เนื่องจากการถูกปิดมากเท่าไร ยิ่งส่งผลเสียอย่างชัดเจนในการทำ SEO เพราะ Google จะมองว่าเว็บไซต์คุณไม่มีคุณภาพแล้วปัดอันดับคุณให้ตกลงไป (ถึงแม้จะมียอดผู้เข้าชมที่มากก็ตาม) เมื่อคุณรู้ถึงแบบนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำต่อไปคือการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเร็วการโหลดหน้าเว็บที่เร็วพอ และไม่ช้าจนต้องรอไปสามหาว

PageSpeed Insights เครื่องมือวัดความเร็วจากทาง Google

Pagespeed insights

PageSpeed Insights คือเครื่องมือออนไลน์จากทาง Google ใช้วัดความเร็วการโหลดหน้าเว็บของคุณ โดยค่าความเร็วที่วัดได้จะถูกตีเป็นคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งภายใน 100 คะแนนนี้จะมีเกณฑ์บอกลักษณะว่าเว็บของคุณมีความเร็วหน้าเว็บที่เร็ว หรือช้าไป

เกณฑ์คะแนนจาก PageSpeed Insights

เกณฑ์คะแนนจาก PageSpeed Insights

ในเกณฑ์สีเขียวก็จะบ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณทำมาดีแล้ว สีส้มคือต้องปรับปรุงแก้ไขเล็กน้อย ส่วนสีแดงคือเว็บของคุณมีความเร็วโหลดหน้าเว็บที่ช้าเกินไป ควรรีบแก้ไข ซึ่งนอกจากการเกณฑ์คะแนนโดยรวมของเว็บแล้ว ในการตรวจวัดความเร็วจากเครื่องมือ PageSpeed Insights ยังจะบอกเพิ่มเติมด้วยอีกว่า ส่วนไหนที่ดี และในส่วนไหนที่ไม่ดี และควรได้รับการปรับปรุง

คะแนนการวัด Page Speed ของเว็บ THAI TOP SEO

ตัวอย่างคะแนนการวัดความเร็วการโหลดหน้าเว็บของเว็บ THAI TOP SEO

และหากคุณเริ่มทำเว็บแล้ว คุณอยากให้เว็บของคุณนั้นติดอันดับของการค้นหาของ Google Search พร้อมการโหลดเข้าหน้าเว็บที่รวดเร็ว เพื่อให้การทำ SEO ของคุณนั้นประสบความสำเร็จ คุณก็ต้องเช็กว่าเว็บของคุณมี Page Speed ที่เร็วดีพอไหม และควรปรับปรุงแก้ไขจุดใด
** โดยคุณสามารถตรวจเช็กความเร็วโหลดของเว็บไซต์คุณ ได้ที่ PageSpeed Insights

ปัจจัยในการวัดความเร็ว Page Speed

ปัจจัยในการวัดความเร็ว Page Speed ของเว็บ



การวัดความเร็ว Page Speed นั้นย่อมมีปัจจัยในการวัดคะแนน ซึ่งปัจจัยที่ทาง Google ใช้วัดนั้นจะถูกแบ่งเป็น 3 หัวข้อดังต่อไปนี้

  • Request การเรียกใช้งาในส่วนต่างๆ ของเว็บ ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ, ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, Script Code หรือแม้กระทั่งฟังก์ชั่นพิเศษ ลูกเล่นภายในหน้าเว็บ ที่ไม่ว่าจะเป็นการกดคลิกแล้วย้ายไปอีกหน้า หรือการกดเพื่อแสดงรูปภาพ วิดีโอ สิ่งเหล่านี้ถูกนับรวมไปใน Request
  • Load Time การโหลดหน้าเว็บทั้งหน้าในหนึ่งครั้ง ว่าใช้ระยะเวลามากน้อยแค่ไหน ยิ่งโหลดได้เร็วเท่าไร ยิ่งส่งผลดีเท่านั้น
  • Page Size ขนาดไฟล์ที่มีบนหน้าเว็บไซต์ ไม่วาจะเป็นภาพ วิดีโอ บทความ หรือไฟล์ต่าง ๆ ที่คุณฝากเก็บไว้บนเว็บ โดยยิ่งหากมีจำนวนมาก หรือมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ย่อมส่งผลให้เว็บโหลดช้าได้เท่านั้น


ทั้ง 3 ข้อนี้นับเป็นปัจจัยหลักในการวัดคะแนน Page Speed บนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งถ้าหากคุณรู้และจัดการเว็บไซต์ของคุณให้มีคะแนนที่ดีขึ้นมาบนการวัด PageSpeed Insights ย่อมส่งผลดีต่อคุณอย่างแน่นอน เพราะการโหลดหน้าเว็บที่เร็ว ย่อมส่งผลดีต่อผู้รับชม และยิ่งผู้ชมรับชมเข้ามาบ่อยขึ้น จะยิ่งส่งผลดีต่อการทำ SEO และเว็บไซต์ของคุณได้ติดอันดับหน้าแรก Google แน่นอน


ทำยังไง Page Speed ก็ไม่เร็วขึ้นสักที

ทำยังไง Page Speed ก็ไม่เร็วขึ้นสักที

หากคุณทำเว็บไซต์ คุณต้องมีประสบการณ์อย่างแน่ที่จะต้องเจอว่าเว็บของคุณ ทำยังไงก็โหลดได้ไม่เร็วขึ้นสักที ตอนนี้เราจะมาแนะนำและให้สังเกตดูว่า สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่คุณเจอหรือไม่ แล้วคุณต้องแก้ไขอย่างไรเพื่อให้เว็บของคุณมี Page Speed ที่เร็วขึ้นกว่าที่ควรเป็น

1. Script Code ที่ทำงานมากเกินไป

บางเว็บที่เริ่มทำมาแต่แรก หรืออยู่มานานแล้วอาจจะมี Script Code ที่ไม่จำเป็นอยู่ภายในหลังบ้านเว็บมากเกินไป ทำให้เกิดการทำงานซ้อนกันภายในหลังบ้านเว็บ ส่งผลทำให้หน้าเว็บของคุณมีการโหลดและแสดงที่ช้า ดังนั้นคุณควรหาผู้เชี่ยวชาญในด้านไอดี สำหรับการจัดการ Script Code เหล่านี้

2. Server ที่ไม่ดีย่อมส่งผลไม่ดีตามมา

การเปิดเว็บ คุณก็ต้องมีการฝากที่อยู่ไว้บน Server ซึ่งหาก Server ที่คุณเลือกใช้งานมีการฝากข้อมูลที่มากเกินไป หรือมีการรับส่งข้อมูล หรือที่เรียกว่า Bandwidth ที่ช้า ย่อมส่งผลให้หน้าเว็บของคุณมี Page Speed ที่ช้าอย่างแน่นอน เพราะแบบนั้นคุณควรที่จะเลือก Server ที่มีขนาดและความเร็วในการรับส่งข้อมูล เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ

3. ไฟล์ที่หนักเกินไป

เว็บของคุณต้องมีการลงไฟล์รูปภาพ หรือวิดีโออยู่หน้าเว็บแน่นอนอยู่แล้ว แต่หากไฟล์เหล่านั้นมีขนาดที่ใหญ่เกินไป มันจะส่งผลให้ต้องทำการโหลดข้อมูลเหล่านั้นนานขึ้น และเมื่อโหลดนานขึ้น การแสดงข้อมูลบนเว็บย่อมต้องช้าลงไปด้วย ฉะนั้นทางที่ดี คุณควรบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงคุณภาพเดิมไว้ ก่อนลงเว็บ

สุดท้ายในการทำ SEO ที่ดี คุณก็ไม่ควรลืม Page Speed ด้วย เพราะไม่งั้นต่อให้คุณทำหน้าเว็บคุณได้ดูดี มีเนื้อหา บทความที่มีประโยชน์มากแค่ไหน แต่หากต้องทำให้ผู้ชมต้องรอนานเกินไป บางครั้งพวกเขาก็อาจจะตัดสินใจปิดแล้วไปเลือกดูเว็บอื่น แต่ถ้าหากเว็บคุณทั้งดูดี มีเนื้อหาที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังสามารถโหลดหน้าเว็บแสดงได้เร็วทันใจผู้ชม ย่อมทำให้มีผู้ชมเข้าหน้าเว็บคุณเยอะ และเมื่อมีผู้ชมเข้าเยอะ ย่อมทำให้หน้าเว็บเราขึ้นอยู่บนยอดอันดับการค้นหาหน้า Google อย่างแน่นอน